หน้าหลัก
บริการ
ข่าวและบทความ
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อ
ภาษา
เข้าสู่ระบบ

หน้าหลัก ข่าวสารองค์กร

พิพัฒน์ นั่งประธาน คบต. มติไม่ขยายระยะเวลา เร่งนายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อภายใน 13 กุมภานี้

พิพัฒน์ นั่งประธาน คบต. มติไม่ขยายระยะเวลา เร่งนายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อภายใน 13 กุมภานี้ . วันที่ 22 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 2/2568 โดยมีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สภาความมั่นคงแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน อาคารกระทรวงแรงงาน . นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เนื่องจากมีความคืบหน้าจากการประชุมระดับวิชาการเมียนมา – ไทย เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 กระทรวงแรงงาน จึงได้ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 2/2568 ในวันนี้ขึ้น เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมแนวทางการดำเนินการ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการต่ออายุใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวในลักษณะ MOU ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ดังนี้ 1. เร่งรัดให้นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวของแรงงานสัญชาติกัมพูชาและเมียนมา ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 โดยไม่มีการขยายระยะเวลาให้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวฯ 2. ผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติกัมพูชาและเมียนมาที่นายจ้างได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและอนุญาตให้ทำงาน เป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 13 สิงหาคม 2568 เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ให้ครบถ้วน 3. ผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติลาวและเวียดนามที่ได้รับอนุญาตทำงานตามมติคณะรัฐมนตรีถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์2568 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 – 13 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว พร้อมรูปถ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด ซึ่งหลังจากนี้ กระทรวงแรงงาน จะนำผลการประชุมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป . ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวต่อว่า หลังจากนี้กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน จะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา ซึ่งแรงงานกลุ่มดังกล่าวจะได้รับการผ่อนผันเมื่อคณะรัฐมนตรี . มีมติเห็นชอบ และประกาศกระทรวงมหาดไทย และประกาศกระทรวงแรงงานมีผลบังคับใช้แล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ขอให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานข้ามชาติ เร่งดำเนินการทุกขั้นตอนให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด ระหว่างนี้หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 2 กรมการจัดหางานหรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

กรมแรงงาน ย้ำนายจ้างเร่งพาแรงงาน 4 สัญชาติต่ออายุภายใน 13 ก.พ.68พ้นกำหนดพบทำงานไม่มีใบอนุญาตเจอจับ ปรับ ส่งกลับประเทศ

กรมแรงงาน ย้ำนายจ้างเร่งพาแรงงาน 4 สัญชาติต่ออายุภายใน 13 ก.พ.68พ้นกำหนดพบทำงานไม่มีใบอนุญาตเจอจับ-ปรับ-ส่งกลับประเทศ . กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน เน้นย้ำให้นายจ้างเร่งยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้กับแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพทั้งแรงงานและนายจ้าง พร้อมคุมเข้มบทลงโทษตามกฎหมาย เตือนนายจ้างที่รับแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือใบอนุญาตทำงานหมดอายุเข้ามาทำงาน ต้องระวางโทษปรับสูงสุด 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าว 1 คน และสำหรับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท พร้อมถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทาง . เมื่อวันที่ 16 ม.ค.68 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน เห็นความสำคัญของการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ทั้งในด้านการดูแลสิทธิประโยชน์ของแรงงานความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมจึงมีนโยบายสนับสนุนการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งจากข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนแรงงานต่างด้าวประมาณ 2.4 ล้านคน ที่ใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ดังนั้นขอเชิญชวนให้นายจ้างและแรงงานกลุ่มดังกล่าวเร่งดำเนินการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อให้แรงงานสามารถอยู่และทำงานในประเทศไทยได้ต่อไป . นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงาน นอกจากจะช่วยให้แรงงานต่างด้าวสามารถทำงานหารายได้เลี้ยงชีพได้โดยถูกต้องตามกฎหมายแล้วยังเป็นหลักประกันว่าแรงงานเหล่านี้สามารถเข้าถึงสิทธิและความคุ้มครองทางกฎหมาย เนื่องจากประเทศไทยได้กำหนดบทลงโทษไว้อย่างเด็ดขาดสำหรับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาทำงาน กล่าวคือ แรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงาน จะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท พร้อมถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทาง และไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้เป็นเวลา 2 ปี . นอกจากนี้กฎหมายก็กำหนดบทลงโทษสำหรับนายจ้างเช่นเดียวกัน หากนายจ้างรับแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือใบอนุญาตทำงานหมดอายุ เข้ามาทำงาน หรือให้ทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน หรือหากกระทำผิดซ้ำ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นเวลา 3 ปี โดยจากสถิติย้อนหลังประจำปีงบประมาณ 2567 ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 กรมการจัดหางานลงพื้นที่ตรวจสอบนายจ้าง/สถานประกอบการ 63,213 ราย/แห่ง พบการกระทำความผิดและได้ดำเนินคดีกับนายจ้าง/สถานประกอบการ รวม 2,156 ราย/แห่ง และได้มีการตรวจสอบคนต่างด้าว 851,194 คน พบการกระทำความผิดและได้ดำเนินคดี 4,563 คน มียอดค่าปรับที่ได้รับการชำระแล้ว รวมทั้งสิ้น 2,862,150 บาท . ทั้งนี้ กรมการจัดหางาน จึงขอเชิญชวนให้นายจ้างเร่งดำเนินการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานตามแนวทางที่กรมการจัดหางานกำหนด ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อให้แรงงานต่างด้าวได้รับสิทธิในการอยู่และทำงานได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2570 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด ทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 – 10 สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือ สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694 (ตลอด 24 ชั่วโมง) . ขอขอบคุณข้อมูลจาก: สยามรัฐ , กระทรวงแรงงาน

คุณพชรดณัย สัตนาโค กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลเออีซี พร้อมด้วยนายแพทย์สัจจพล พงษ์ภมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลเอเชียอินเตอร์

คุณพชรดณัย สัตนาโค กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลเออีซี พร้อมด้วยนายแพทย์สัจจพล พงษ์ภมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลเอเชียอินเตอร์เนชั่นแนล และที่ปรึกษาเข้าสวัสดีปีใหม่ ท่านบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน

โรงพยาบาลเออีซีนำโดย คุณพชรดณัย สัตนาโค กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลเออีซีได้เข้าพบเพื่อสวัสดีปีใหม่ คุณมารศรี ใจรังษี

โรงพยาบาลเออีซีนำโดย คุณพชรดณัย สัตนาโค กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลเออีซีได้เข้าพบเพื่อสวัสดีปีใหม่ คุณมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม

เตรียมพบกับโฉมใหม่ ของ “โรงพยาบาลเออีซี” พร้อมเปิดให้บริการ มกราคม 68 นี้

เตรียมพบกับโฉมใหม่ ของ “โรงพยาบาลเออีซี” พร้อมเปิดให้บริการ มกราคม 68 นี้ . ก้าวไปอีกขั้นกับการปรับเปลี่ยน รีโนเวทอาคาร สถานที่ เพื่อรองรับผู้มาใช้บริการ สร้างความสะดวกสบายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน บริการต่าง ๆ ให้แก่ผู้มารับบริการ . ทั้งนี้ยังไม่แล้วเสร็จ ทางเราจะมาอัพเดทความสวยงามอีกทั้งให้ทุกท่านได้ชมกันนะคะ . โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital “การรักษาพยาบาล ที่ไร้พรมแดน”

ทำไมแรงงานต่างด้าง ถึงต้องตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี

ทำไมแรงงานต่างด้าง ถึงต้องตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี . ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่สำหรับบางคนหรือบางกลุ่มเท่านั้น สำหรับเราแล้วเรื่องสุขภาพสำคัญกับทุกคนทุกเชื้อชาติ แน่นอนว่าผู้ที่เป็นแรงงานต่างด้าวเองย่อมต้องการสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคร้ายเช่นเดียวกับบุคคลอื่น ๆ การตรวจสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่เราแนะนำ แล้วทำไมแรงงานต่างด้าวจึงต้องควรตรวจสุขภาพล่ะ ? ในวันนี้ โรงพยาบาลเออีซี (aechospital) จะมาแบ่งปันข้อมูลเรื่องนี้กันครับ . สุขภาพเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญแรงงานต่างด้าวเองต้องทำงานอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีสภาวะอากาศไม่ปลอดโปร่งเหมือนแต่ก่อนด้วยฝุ่น PM 2.5 ดังนั้นจึงควรป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัย นอกจากนี้เพื่อความมั่นใจในร่างกายของตนเองจึงควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อดูความสมบูรณ์ของร่างกายด้วย ไม่เพียงแค่เท่านั้นตลอดเวลาที่ผ่านมายังมีโรคระบาดที่เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ ในหลาย ๆ ครั้งอาจมียาที่สามารถรักษาได้ แต่ในบางครั้งก็ไม่มียารักษาเช่นกัน ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เห็นว่าการตรวจสุขภาพสำคัญเพียงใด หากเราละเลยการตรวจสุขภาพจะทำให้เราไม่รู้ถึงรายละเอียดของร่างกายตนเองและภาวะเสี่ยงโรคที่ซ่อนอยู่ เนื่องจากบางโรคต้องตรวจก่อนจึงจะพบและทำการรักษาต่อไปได้ . ฟันเฟืองสำคัญของสถานประกอบการ สถานประกอบการน้อยใหญ่หลายแห่งต้องพึ่งแรงงานต่างด้าวในการทำงาน หากขาดพวกเขาจะส่งผลต่อกิจการได้โดยตรงยิ่งในช่วงที่สภาพอากาศที่เต็มไปด้วย PM 2.5 หรือโรคระบาดที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อทุกคนในสถานประกอบการ หากสถานประกอบการละเลยเรื่องสุขภาพของแรงงานต่างด้าวจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คุณลองคิดภาพคนงาน 1 คนติดเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่ระบาดได้ โดยไวรัสดังกล่าวแทบจะไม่แสดงอาการใด ๆ ให้เราสังเกตเห็นได้เลย และในเวลาต่อมาเพียงไม่กี่วันไวรัสดังกล่าวแพร่กระจายไปยังคนงานใกล้เคียงไปหลายคน ก่อนที่หลังจากนั้นคนงานที่ติดเชื้อคนแรกจะแสดงอาการออกมาจนสังเกตเห็นได้ แล้วพนักงานคนอื่น ๆ ล่ะ ? คงจะดีกว่าหากพนักงานทุกคนไม่ว่าจะเป็นต่างด้าวหรือไม่ได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอราคาที่เอื้อมถึงได้ หลาย ๆ คนอาจเห็นว่าโปรแกรมตรวจสุขภาพมีราคาที่แตกต่างกัน และอาจคิดว่าการตรวจสุขภาพสำหรับแรงงานต่างด้าวอาจมีราคาสูง ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจ รวมถึงความปลอดภัยให้กับสถานประกอบการและเพื่อสุขภาพที่ดีของแรงงานต่างด้าว เราได้จัดโปรแกรมตรวจสุขภาพในราคาเพียง 500 บาทเท่านั้น เพื่อให้ทุกคนได้มีสุขภาพที่ดี เพราะเราอยากให้ทุกคนมองว่าสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ . ใบรับรองแพทย์สำหรับแรงงานต่างด้าว ในการขอรับใบรับรองแพทย์ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแรงงานต่างด้าว เนื่องจากจำเป็นต้องนำไปยื่นเพื่อดำเนินการขอใบอนุญาตในการทำงานที่กระทรวงแรงงานต่อไป โดยผู้เข้ารับการตรวจสามารถยืนยันตัวตนเพื่อตรวจสุขภาพโดยใช้ Passport เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นหากไม่ทำการตรวจสุขภาพก็เท่ากับว่าจะไม่มีใบรับรองแพทย์เพื่อใช้ยื่นขอใบอนุญาตในการทำงานนั่นเอง

โรงพยาบาลเออีซีร่วมกับโรงพยาบาลเอเซียอินเตอร์เนชั่นแนลให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว Work Permit ประจำปี 2568 เเละตรวจสุขภาพผู้ประกันตนฟรี 14 รายกา

โรงพยาบาลเออีซีร่วมกับโรงพยาบาลเอเซียอินเตอร์เนชั่นแนลให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว Work Permit ประจำปี 2568 เเละตรวจสุขภาพผู้ประกันตนฟรี 14 รายการ . สนใจตรวจสุขภาพติดต่อสอบถามหรือ นัดหมายจองคิวได้ที่ 061-350-6197 082 423 6628 คุณเนย์ 064 249 5494 คุณตุ๊ก . สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับสุขภาพหรือข่าวสารต่างๆของโรงพยาบาลเออีซีได้ที่ เพจ Facebook โรงพยาบาลเออีซี พร้อมเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้ โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital “การรักษาพยาบาล ที่ไร้พรมแดน”

“พิพัฒน์” พร้อมจดทะเบียนแรงงานกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม และต่ออายุใบอนุญาต ขอให้นายจ้างเตรียมเอกสารให้พร้อม

“พิพัฒน์” พร้อมจดทะเบียนแรงงานกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม และต่ออายุใบอนุญาต ขอให้นายจ้างเตรียมเอกสารให้พร้อม . นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน เตรียมจดทะเบียนตามประกาศกระทรวงมหาดไทย 2 ฉบับ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามนโยบายรัฐบาล ดูแลสิทธิและประโยชน์ของแรงงาน ลดปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติตลอดจนการตกเป็น เหยื่อการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน และได้ดูแลครอบคลุมไปถึงผู้ติดตาม ซึ่งเป็นบุตรของแรงงานให้ได้รับการคุ้มครองตามหลักมนุษยธรรม ขั้นตอนล่าสุดอยู่ระหว่างการนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนาม ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป เนื่องจากเป็นประกาศกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต้องลงนามโดยนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รมว. “พิพัฒน์” กล่าวต่อว่า ประกาศฉบับที่ 1 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (การจดทะเบียน คนใหม่) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ประกาศฯ ฉบับนี้ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 67 เป็นต้นไป ฉบับที่ 2 ประกาศกระทรวงมหาดไทย . เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 (กลุ่มต่ออายุใบอนุญาต) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 สำหรับประกาศฯ ฉบับนี้ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 67 เป็นต้นไป . ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสาระสำคัญของประกาศ ดังกล่าว คือ ฉบับแรก ผ่อนผันให้แรงงานทั้ง 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม กลุ่มที่การอนุญาตให้อยู่หรือทำงานอยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย กลุ่มที่ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยได้รับอนุญาต แต่ทำงานกับนายจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และกลุ่ม 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ถึง 30 ธ.ค. 67 เพื่อดำเนินการขออนุญาตทำงานตามที่ประกาศกระทรวงแรงงานกำหนด เมื่อดำเนินการตามที่กำหนดแล้วจะสามารถอยู่และทำงานเป็นการชั่วคราวได้เป็นระยะเวลา 1 ปี ถึงวันที่ 31 มี.ค. 69 รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรคนต่างด้าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ให้มีสิทธิอยู่ตามสิทธิของคนต่างด้าวที่เป็นบิดา หรือ มารดา โดยให้ไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎร หากผู้ติดตามมีอายุ ครบ 18 ปี และประสงค์ทำงานกับนายจ้างให้คนต่างด้าวสามารถอยู่ในประเทศไทยอีก 60 วัน เพื่อยื่นขออนุญาตทำงาน ส่วนฉบับที่ 2 กำหนดให้คนต่างด้าว 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตทำงานในลักษณะ MOU เพื่อให้สามารถทำงานเป็นเวลา 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 70 . และต่ออายุได้อีกครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี ถึง 13 ก.พ. 72 ครอบคลุมถึงผู้ติดตามคนต่างด้าว (บุตรของแรงงานต่างด้าว) ซึ่งมีอายุไม่เกิน 18 ปี สามารถอยู่ในประเทศได้เท่ากับระยะเวลาที่บิดามารดาของผู้นั้นได้รับอนุญาต โดยจะต้องไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร หากผู้ติดตามมีอายุครบ 18 ปี และประสงค์จะทำงาน ให้ไปปรับปรุงทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และดำเนินการตามกฎหมายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวต่อไป . ทั้งนี้ สำหรับกำหนดวันเริ่มดำเนินการจดทะเบียนแรงงาน 4 สัญชาติ กรมการจัดหางานจะประชาสัมพันธ์ให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานต่างชาติทราบต่อไป ขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมการจัดหางานอย่างใกล้ชิด ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน doe.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

โรงพยาบาลเออีซีร่วมกับโรงพยาบาลเอเชียอินเตอร์เนชั่นแนลให้บริการตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการบูรณาการระหว่าง สปส และ สปสช

โรงพยาบาลเออีซีร่วมกับโรงพยาบาลเอเชียอินเตอร์เนชั่นแนลให้บริการตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการบูรณาการระหว่าง สปส และ สปสช เพื่อผู้ประกันตน มาตรา 33 และ มาตรา 39 เท่านั้น . รายการตรวจสุขภาพมีดังนี้ 1.ชั่งน้ำหนัก-วัดส่วนสูง 2.ตรวจวัดดัชนีมวลกาย (BMI) 3.ตรวจวัดความดันโลหิต 4.ตรวจคัดกรองการได้ยิน Finger Rub Test 5.ตรวจเต้านม และสอนการตรวจเต้านมด้วยตัวเอง 6.ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC 7.ตรวจหาความสมบูรณ์ของปัสสาวะ (UA) 8.ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) 9.ตรวจการทำงานของไต Cr และ eGFR 10.ตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบ (HBsAg) 11.ตรวจมะเร็งปากมดลูก Pap Smear 12.เอกซเรย์ปอด Chest X-ray 13.ตรวจคัดกรองความผิดปกติและค้นหาโรคทางสายตา 14.ตรวจไขมันในเลือด (Total cholesterol & HDL cholesterol) . สนใจตรวจสุขภาพติดต่อสอบถามหรือ นัดหมายจองคิวได้ที่ 061-350-6197 082 423 6628 คุณเนย์ 064 249 5494 คุณตุ๊ก . สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับสุขภาพหรือข่าวสารต่างๆของโรงพยาบาลเออีซีได้ที่ เพจ Facebook โรงพยาบาลเออีซี พร้อมเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้ โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital “การรักษาพยาบาล ที่ไร้พรมแดน”

โรงพยาบาลเออีซีร่วมกับโรงพยาบาลเอเซียอินเตอร์เนชั่นแนลให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว Work Permit ประจำปี 2568

โรงพยาบาลเออีซีร่วมกับโรงพยาบาลเอเซียอินเตอร์เนชั่นแนลให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว Work Permit ประจำปี 2568 . รายการตรวจสุขภาพ มีดังนี้ 1.โรคเรื้อน 2.ตรวจหาสารเสพติด 3.วัณโรคระยะอันตราย 4.โรคพิษสุราเรื้อรัง 5. โรคเท้าช้าง 6. โรคซิฟิลิสในยะระที่ 3 7. การตรวจสภาพจิตใจ 8. การตรวจการตั้งครรภ์ . สนใจตรวจสุขภาพติดต่อสอบถามหรือ นัดหมายจองคิวได้ที่ - 061-350-6197 - 082 423 6628 คุณเนย์ - 064 249 5494 คุณตุ๊ก . โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital “การรักษาพยาบาล ที่ไร้พรมแดน”

เตรียมพบกับโฉมใหม่ ของ “โรงพยาบาลเออีซี” พร้อมเปิดให้บริการ มกราคม 68 นี้

เตรียมพบกับโฉมใหม่ ของ “โรงพยาบาลเออีซี” พร้อมเปิดให้บริการ มกราคม 68 นี้ . ก้าวไปอีกขั้นกับการปรับเปลี่ยน รีโนเวทอาคาร สถานที่ เพื่อรองรับผู้มาใช้บริการ สร้างความสะดวกสบายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน บริการต่าง ๆ ให้แก่ผู้มารับบริการ . ทั้งนี้ยังไม่แล้วเสร็จ ทางเราจะมาอัพเดทความสวยงามอีกทั้งให้ทุกท่านได้ชมกันนะคะ . โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital “การรักษาพยาบาล ที่ไร้พรมแดน”

5 ขั้นตอนการดำเนินการขึ้นทะเบียนต่างด้าว ประจำปี 2567 (มติ ครบ. 24 กันยายน 2567)

5 ขั้นตอนการดำเนินการขึ้นทะเบียนต่างด้าว ประจำปี 2567 (มติ ครบ. 24 กันยายน 2567) . 1. นายจ้างแจ้งข้อมูลคนต่างด้าวต่อเจ้าหน้าที่ 2. ตรวจโรคต้องห้าม 6 โรคและซื้อประกันสุขภาพ 3. ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว 4. จัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) 5. จัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) . โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital “การรักษาพยาบาล ที่ไร้พรมแดน”

เตรียมตัวให้พร้อม! แรงงานกลุ่มที่ต้องขึ้นทะเบียนใหม่เมื่อภาครัฐเปิดให้ดำเนินการ

เตรียมตัวให้พร้อม! แรงงานกลุ่มที่ต้องขึ้นทะเบียนใหม่เมื่อภาครัฐเปิดให้ดำเนินการ . 1. แรงงานหลบหนีเข้าเมือง ไม่มีเอกสารใด ๆ 2. มีเอกสาร หมดอายุไปแล้ว 3. มีวี่ซ่า ไม่มีใบอนุญาตทำงาน 4. ใบแจ้งออกหมดอายุเกิน 60 วัน 5. นายจ้างเก่าไม่ยอมแจ้งออก 6. อยู่เกินกำหนด MOU ครบ 4, 6 ปี 7. เคยขึ้นทะเบียนแต่ดำเนินการไม่ทันเวลา 8. ถือวีว่าท่องเที่ยว แต่ลักลอบทำงาน 9. ไม่ต้องการเดินทางกลับประเทสต้นทาง . หากท่านเป็นแรงงานที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าว โปรดเตรียมความพร้อมเพื่อรอการเปิดขึ้นทะเบียนใหม่ . โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital “การรักษาพยาบาล ที่ไร้พรมแดน”

เตรียมพบกับโฉมใหม่เฟส 2 ของ “โรงพยาบาลเออีซี” พร้อมเปิดให้บริการ มกราคม 68 นี้

เตรียมพบกับโฉมใหม่เฟส 2 ของ “โรงพยาบาลเออีซี” พร้อมเปิดให้บริการ มกราคม 68 นี้ . ก้าวไปอีกขั้นกับการปรับเปลี่ยน รีโนเวทอาคาร สถานที่ เพื่อรองรับผู้มาใช้บริการ สร้างความสะดวกสบายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน บริการต่าง ๆ ให้แก่ผู้มารับบริการ . ทั้งนี้ยังไม่แล้วเสร็จ ทางเราจะมาอัพเดทความสวยงามอีกทั้งให้ทุกท่านได้ชมกันนะคะ . สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับสุขภาพหรือข่าวสารต่างๆของโรงพยาบาลเออีซีได้ที่ เพจ Facebook โรงพยาบาลเออีซี พร้อมเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้ โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital “การรักษาพยาบาล ที่ไร้พรมแดน”

ธอส. เปิดให้ผู้ประกันตนโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567

ธอส. เปิดให้ผู้ประกันตนโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 ยื่นขอสินเชื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 นี้ พร้อมเพิ่มความสะดวก เปิดบริการในวันเสาร์ - อาทิตย์นี้ทุกสาขาทั่วประเทศ . ตามที่กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี ให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 หรือ 40 ที่ต้องการซื้อ หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ผ่อนคงที่นาน 5 ปี โดยให้ผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ สามารถยื่นขอสินเชื่อที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ธอส. จึงพร้อมเปิดให้ผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์ยื่นขอสินเชื่อทุกสาขาทั่วประเทศในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 และวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 รวมทั้งเปิดให้นัดวันยื่นขอสินเชื่อล่วงหน้าผ่าน Application : GHB ALL GEN และ GHB Buddy บน Line Application . นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจาก สปส. ร่วมกับ ธอส. จัดทำโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 หรือ 40 โดยผู้ประกันตนมาตรา 40 จะต้องส่งเงินสมทบต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี ก่อนเดือนที่ขอใช้สิทธิ์ วัตถุประสงค์การกู้เพื่อซื้อ หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย โดยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา มีผู้ประกันตนให้ความสนใจลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการผ่านทาง Application SSO Plus ของ สปส. เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการแล้ว สามารถเข้ามายื่นขอสินเชื่อได้ตามระยะเวลาที่ระบุในหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน โดยนำเอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารหลักประกัน มายื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป . พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์มีทางเลือกในการเข้ามายื่นขอสินเชื่อได้อย่างเต็มที่ ธอส. จึงเตรียมเปิดให้บริการในวันเสาร์ที่ 9 และ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยสำนักงานใหญ่ และสาขาทั่วประเทศ เวลา 08.30-15.30 น. สำหรับสาขาในห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามเวลาทำการของสาขาที่อยู่ในห้าง และ ธอส. ยังเปิดให้นัดวันยื่นขอสินเชื่อตามวันและเวลาที่ตนเองสะดวก ทั้งนี้ต้องอยู่ภายในระยะเวลาที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน ผ่าน 2 ช่องทาง ประกอบด้วย (1) ช่องทาง Application : GHB ALL GEN เพียงดาวน์โหลด Application : GHB ALL GEN ผ่านระบบ IOS , Android และ Huawei จากนั้นเลือกแบนเนอร์โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 กรอกข้อมูลของผู้ประกันตน โดยระบุสาขา วันและเวลาที่จะเข้ายื่นขอสินเชื่อ และ (2) GHB Buddy บน Line Application ด้วยการเพิ่มเพื่อน GHB Buddy พร้อมผูกบัญชีกับ GHB Buddy กดเลือกเมนูบริการพิเศษ เลือกโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ. 2567 กรอกข้อมูลของผู้ประกันตน ระบุสาขา วันและเวลาที่จะยื่นขอสินเชื่อ โดยผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์สามารถนัดวันยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2567) เป็นต้นไป . ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการจะได้รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก เพียง 1.59% ต่อปี, ปีที่ 6 - 8 เท่ากับ MRR - 2.00% ต่อปี และปีที่ 9 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR - 0.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) โดยโครงการดังกล่าวผู้ประกันตนสามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อ หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ภายใต้วงเงินกู้โครงการสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียง 3,400 บาท เท่านั้น! สำหรับวงเงินกู้ส่วนที่เกิน 2 ล้านบาท สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยผลิตภัณฑ์อื่นของธนาคารได้ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

คุณพชรดณัย สัตนาโค กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลเออีซีเข้าพบเพื่อแสดงความยินดีกับ ท่านไพโรจน์ โชติกเสดียร

โรงพยาบาลเออีซีนำโดย คุณพชรดณัย สัตนาโค กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลเออีซีเข้าพบเพื่อแสดงความยินดีกับ ท่านไพโรจน์ โชติกเสดียรในโอกาสได้รับแต่งตั้งเป็น ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน . พร้อมเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้ โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital

“นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” ประชุมบริหารแรงงานต่างด้าว ขยายเปิดศูนย์ CI รองรับขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ

“นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” ประชุมบริหารแรงงานต่างด้าว ขยายเปิดศูนย์ CI รองรับขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ . วันที่ 21 ตุลาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 4/2567 โดยมีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารกรมการจัดหางาน ผู้แทนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนจากสำนักเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน อาคารกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่าวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของ คนต่างด้าว (คบต.) ครั้งที่ 4/2567 ได้พิจารณาเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว 2 เรื่อง ดังนี้ 1.การจัดตั้งศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) เอกสารการเดินทาง (TD) และเอกสารหนังสือเดินทาง (Passport) เพื่อรับรองสถานะบุคคลของแรงงานที่ยังไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือมีเอกสารหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางหมดอายุ หรือใกล้หมดอายุ และ 2.การแก้ไขข้อขัดข้องให้กับคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ดำเนินการได้ครบทุกขั้นตอนแล้ว แต่ยังไม่สามารถจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งหลังจากนี้ กระทรวงแรงงาน จะนำผลการประชุมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างนี้ กระทรวงแรงงานจะเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานต่างชาติทราบถึงแนวทางการดำเนินการอย่างทั่วถึง เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกระบวนการ ขั้นตอน ที่กระทรวงแรงงานกำหนดได้อย่างถูกต้อง ซึ่งแรงงานต่างชาติที่เข้าสู่ระบบการจ้างที่ถูกต้องจะได้รับความคุ้มครอง ได้รับสิทธิที่พึงได้รับตามกฎหมายเช่นเดียวกับแรงงานไทยโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ . ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ศูนย์ CI จะเปิดดำเนินการได้ ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2567 จนถึงเดือนเมษายน 2568 โดยจะเปิดศูนย์ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นแห่งแรก หากมีแรงงานเมียนมาเข้าใช้บริการจำนวนมาก และทางการเมียนมาร้องขอจะมีการเปิดศูนย์เพิ่มเติมในโอกาสต่อไป ในส่วนของแรงงานต่างชาติ ตาม มติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ยังเหลือขั้นตอนสุดท้ายคือการทำบัตรชมพู หากดำเนินการไม่ทันภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 แรงงานต่างชาติดังกล่าวจะหลุดจากระบบ ซึ่งจะส่งผลกระทบภาคธุรกิจของประเทศได้ กรมการจัดหางาน จึงเสนอคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว เพื่อให้แรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้สามารถดำเนินการต่ออายุในลักษณะ MOU เพื่อให้สามารถทำงานเป็นเวลา 2 ปี และต่ออายุได้อีกครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี และขอเน้นย้ำ ให้นายจ้างสถานประกอบการ พาคนต่างชาติมาดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา ที่กำหนด

คุณพชรดณัย สัตนาโค กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลเออีซีเข้าพบคุณมารศรี ใจรังษี เพื่อแสดงความยินดี

โรงพยาบาลเออีซีนำโดย คุณพชรดณัย สัตนาโค กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลเออีซีเข้าพบคุณมารศรี ใจรังษี เพื่อแสดงความยินดี ในโอกาส คณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม . ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2567 ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีมติแต่งตั้งนางมารศรี ใจรังษี ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพื่อให้ดูแลสิทธิประโยชน์ สวัดิการให้กับผู้ประกันตนกว่า 24 ล้านคนทั่วประเทศ . พร้อมเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้ โรงพยาบาลเออีซี AEC Hospital

โรงพยาบาลเออีซี

เลขที่ 5/107 หมู่ 1 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ห้วยกะปิ เมือง ชลบุรี 20000

061-350-6197

           

แผนที่และการเดินทาง

โรงพยาบาลเออีซี

เลขที่ 5/107 หมู่ 1 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ห้วยกะปิ เมือง ชลบุรี 20000

   061-350-6197

              

ฝากข้อความติดต่อกลับ

กดติดตามรับข่าวสาร

Copyrights © 2025 All Rights Reserved. www.aechospital.com Version 1.0. Designed by WEB-BEE-DEV. +63,536 Times.